พม. เปิดโครงการรณรงค์“สังคมไทย ห่วงใยคนไร้ที่พึ่ง และคนขอทาน”ที่เชียงใหม่

พม. เปิดโครงการรณรงค์ สังคมไทย ห่วงใยคนไร้ที่พึ่ง และคนขอทาน สร้างความเป็นระเบียบรวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ  เพราะการขอทานเชื่อมโยงไปสู่ขบวนการค้ามนุษย์

เมื่อ 18.00 น. วันที่ 28 มิถุนายน  61  ที่ ลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่  พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์   เปิดโครงการรณรงค์“สังคมไทย ห่วงใยคนไร้ที่พึ่ง และคนขอทาน” เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชน สร้างการมีส่วนร่วม ในการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง ให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายให้ได้รับการคุ้มครอง ตลอดจนสร้างความเป็นระเบียบ และภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ

พลเอก อนันตพร กล่าวว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เล็งเห็นคุณค่าของกลุ่มคนไร้ที่พึ่ง และคนขอทาน ควรได้รับการดูแลคุณภาพชีวิตและได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสม จึงดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพ และช่วยเหลือ ภายใต้มาตรการ 3 ด้าน คือ มาตรการป้องกัน เผยแพร่ประชาสัมพันธ์  สร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือและการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งและผู้ทำการขอทาน    มาตรการคุ้มครองให้บริการสวัสดิการสังคมใช้กระบวนการทางสังคมสงเคราะห์พัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตก่อนส่งคืนครอบครัวชุมชน ดำเนินการโดยศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง   และ มาตรการส่งเสริมการมีส่วนร่วมบูรณาการกับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายต่างๆ ในการเสริมสร้างศักยภาพให้คนไร้ที่พึ่ง และคนขอทานให้ตระหนักในคุณค่าของตนเอง ภาคภูมิใจในศักยภาพของตนเอง รวมถึงให้สังคมตระหนัก ยอมรับ สร้างการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือแบ่งปัน ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ จนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคมอย่างปกติสุข

พลเอก อนันตพร กล่าวต่อว่ากรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 และพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559  อาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ร่วมแก้ไขปัญหา  ซึ่งทุกฝ่ายตระหนักร่วมกันว่า  การขอทานเชื่อมโยงไปสู่ขบวนการค้ามนุษย์ ดังนั้น พส.จึงจัดโครงการรณรงค์  “สังคมไทย ห่วงใยคนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน” ภายใต้นโยบาย DSDW CANNON 2018 ในครั้งแรก จัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต  ต่อมาได้มีการขยายผลมายังจังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดเชียงใหม่ ตามลำดับ  เนื่องจากเล็งเห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ และการต่างประเทศที่สำคัญ ด้วยเป็นที่ตั้งสถานกงสุลใหญ่ในหลายประเทศ และเป็นเมืองท่องเที่ยว อันดับต้นๆของประเทศไทย

 

การจัดโครงการรณรงค์ในครั้งนี้  กิจกรรมที่สำคัญ คือการประกาศเจตนารมณ์ “สังคมไทยห่วงใย คนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน”  การเดินรณรงค์เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วน ร่วมในการแก้ไขปัญหา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ปรับเปลี่ยนทัศนคติจากการให้เงิน มาให้โอกาส  ให้งานทำแก่กลุ่มเป้าหมาย  โดยภายในงานมีการมอบบัตรประจำตัวผู้แสดงดนตรีเปิดหมวก และการแสดงอื่นๆ ในที่สาธารณะ ซึ่งอยู่ในเป้าหมายการจัดระเบียบในครั้งนี้ ซึ่งผู้สนใจสามารถไปยื่นเรื่องขอรับบัตรประจำตัวได้ที่สำนักงาน พม.ประจำจังหวัดต่างๆ.