ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ได้เข้าเยี่ยมผู้ประสบอุบัติเหตุและให้กำลังใจจากกรณีรถลากพ่วงของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีชนท้ายกัน

นายอนุชา ดำรงมณี  กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในช่วงค่ำที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถรถรางนำเที่ยวโซนเพรดดิเตอร์พราวน์ ส่วนแสดงสัตว์กินเนื้อ ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ขบวนที่ 33 ชนท้ายกับรถขบวนที่ 16  ระหว่างใกล้สถานีจุดจอดรับนักท่องเที่ยวนั้น  สาเหตุเบื้องต้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากเหตุการณ์ในอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้รถรางนำชม เกิดการชนท้ายกันขึ้นและเกิดแรงกระแทกจากตัวรถและส่วนพ่วง จึงทำให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 38 คน เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยอำเภอหางดง เข้ารับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำส่ง รพ.เชียงใหม่ใกล้หมอ และ รพ.เชียงใหม่ราม  ซึ่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีรับผิดชอบในการดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด 

ทั้งนี้สำหรับการให้บริการรถลากแก่นักท่องเที่ยวจะมีการตรวจเช็คสภาพรถทุกวันก่อนการนำไปใช้ให้บริการนักท่องเที่ยว และได้มีการเตรียมการรถสำรองที่พร้อมเปลี่ยนทันทีหากรถมีปัญหา ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่ในจุดใกล้จอดส่งนักท่องเที่ยว ที่มีรถรางนำชมหลายคันจอดรอรับนักท่องเที่ยวในรอบต่อๆไปเต็มพื้นที่ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น 

ซึ่งสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้จัดการดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นอย่างดีโดยทันที โดย ณ ขณะนี้ นักท่องเที่ยวผู้ได้รับอุบัติเหตุส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับเรียบร้อยแล้ว แต่มีนักท่องเที่ยวบางส่วน ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล   ทั้งหมดอาการปลอดภัย รอดูอาการโดยในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ซึ่งในวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 เวลา 9.30 น.  นายอนุชา  ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ได้เข้าเยี่ยมผู้ประสบอุบัติเหตุจากกรณีรถลากพ่วงของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีชนท้ายกัน เมื่อค่ำวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับอุบัติเหตุจำนวน 38 คน  ซึ่งทุกคนปลอดภัยดี และส่วนใหญ่เดินทางกลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืน แต่มีนักท่องเที่ยว จำนวน 5  คน ที่ต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ใกล้หมอ จำนวน 4 คน และโรงพยาบาลเชียงใหม่รามจำนวน 1  คน  ซึ่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด  และได้มอบบัตรอภินันทนาการในการเข้าเที่ยวชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีตลอดชีวิตแก่นักท่องเที่ยวจำนวน 5 คนนี้อีกด้วย